ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
Th
En
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
เว็บไซต์น่าสนใจ
แผนผังเว็บไซต์
ข่าวภาวะการลงทุน
พรบ.ข้อมูลข่าวสารราชการ
หน้าแรก
เกี่ยวกับศูนย์
ข่าวสาร
ปฏิทินกิจกรรม
บริการ
คำถามที่พบบ่อย
ติดต่อเรา
.
ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
หน้าแรก
ข่าวสาร
บีโอไอเร่งยกระดับ SMEs ไทย หนุนวิจัยและพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
บีโอไอเร่งยกระดับ SMEs ไทย หนุนวิจัยและพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
19 พฤศจิกายน 2562
บีโอไอเร่งยกระดับ
SMEs
ไทย
หนุนวิจัยและพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
บีโอไอ มุ่งส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้วยการวิจัยและพัฒนา สร้างนวัตกรรมบุกตลาดโลก เผยตั้งแต่ปี 2558 – กันยายน 2562 มียอดขอรับการส่งเสริม ลงทุนกิจการ
SMEs
ไทยรวมกว่า 2,000 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 9.7 หมื่นล้าน พร้อมนำคณะ สื่อมวลชนเยี่ยมชมกิจการวิจัยและพัฒนาของคนไทย
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยในโอกาส นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมกิจการธุรกิจ SMEs ไทยที่ได้รับการส่งเสริมในกิจการวิจัยและพัฒนา ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นกิจการที่บีโอไอ ให้ความสำคัญและให้การส่งเสริมมาโดยตลอด โดยกว่าร้อยละ 60 ของโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในแต่ละปีเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีมูลค่าเงินลงทุนไม่ เกิน 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ระหว่างปี 2558 – กันยายน 2562 มีโครงการ SMEs ไทย ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 2,222 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 97,912 ล้านบาท
“ที่ผ่านมา บีโอไอมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับ SMEs ด้วยสิทธิประโยชน์ที่สูงและเงื่อนไขที่ ผ่อนปรน พร้อมทั้งสนับสนุนการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ รวมทั้งมุ่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการ (Merit-based Incentives) เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา เช่น การสนับสนุนกองทุนพัฒนาเทคโนโลยี การฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และการออกแบบผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น โดยสามารถนำเงินลงทุนดังกล่าวมาลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากบีโอไอได้” นางสาวดวงใจกล่าว
วัตถุประสงค์ในการนำสื่อมวลชนมาเยี่ยมชมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในวันนี้ เพื่อให้สื่อมวลชน ได้เห็นตัวอย่างของผู้ประกอบการไทยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีการลงทุนด้านการวิจัยเฉพาะด้าน โดยบริษัท โกลบอล บั๊กส์ เอเชีย จำกัด เป็นกิจการร่วมทุนไทยกับสวีเดน ดำเนินกิจการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบ ให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและอาหารเสริม เป็นต้น มีจุดเด่นที่การวิจัยและพัฒนาโปรตีนผงที่ได้จาก แมลง เช่น จิ้งหรีด ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมนำมาทำเป็นโปรตีนผงที่ใช้ในการประกอบการอาหาร เช่น เส้นพาสต้า และเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับอาหารเสริม โดยได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มประเทศยุโรป นับเป็นตัวอย่างกิจการที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกิจการไทยและต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันบีโอไอ ได้ให้การส่งเสริมกิจการลักษณะนี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกิจการที่มีการวิจัยและพัฒนา
ส่วนบริษัท บุญ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้รับการส่งเสริมในกิจการวิจัยและพัฒนาสารเติมแต่งกลิ่นรส (FLAVOR) เพื่อลดการนำเข้าสารเติมแต่งกลิ่นรสจากต่างประเทศ รวมทั้งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรของไทย ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อประเทศ
“ทั้งสองกิจการ ถือเป็นบริษัท SMEs ของคนไทย ที่มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ด้วยการทำวิจัยและพัฒนา นำไปสู่การพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก ซึ่งบีโอไอให้การส่งเสริมใน หมวดกิจการวิจัยและพัฒนา โดยให้สิทธิประโยชน์สูงสุดยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงินในการยกเว้นภาษีอีกด้วย โดยตั้งแต่ปี 2558 – ก.ย. 2562 มีคำขอรับการส่งเสริมในกิจการวิจัย และพัฒนารวม 85 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 9,094.9 ล้านบาท” นางสาวดวงใจกล่าว
ข้อมูลจาก: ศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)