ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
Th
En
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
เว็บไซต์น่าสนใจ
แผนผังเว็บไซต์
ข่าวภาวะการลงทุน
พรบ.ข้อมูลข่าวสารราชการ
หน้าแรก
เกี่ยวกับศูนย์
ข่าวสาร
ปฏิทินกิจกรรม
บริการ
คำถามที่พบบ่อย
ติดต่อเรา
หน้าแรก
ข่าวสาร
ย้ำร่างพ.ร.บ. EEC ดูแลทุกมิติ ยกระดับเศรษฐกิจก้าวกระโดด คุณภาพชีวิตคน 3 จังหวัด
ย้ำร่างพ.ร.บ. EEC ดูแลทุกมิติ ยกระดับเศรษฐกิจก้าวกระโดด คุณภาพชีวิตคน 3 จังหวัด
15 ธันวาคม 2560
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ( EEC ) และชี้แจงประเด็นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แก้ไขร่าง พ.ร.บ. EEC ที่มีข้อเสนอแนะ 4 ข้อ ว่า โครงการ EEC เป็นโครงการที่สำคัญของรัฐบาล ที่จะต่อยอดจากโครงการที่มีอยู่เดิมใน 3 พื้นที่จังหวัดได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่คำนึงทุกมิติทั้งสิ่งแวดล้อม ชุมชน ที่จะมุ่งตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้ไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางในอนาคตซึ่งหมายถึงวิถีชีวิต คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้การพัฒนาพื้นที่ EEC เป็นตัวอย่างการบูรณาการการพัฒนาที่คำนึงถึงการต่อเนื่องเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานการโซนนิ่ง การใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีการจัดวางตำแหน่ง สถานประกอบการ และตำแหน่งการจัดวางระบบสาธารณูปการที่เหมาะสม และอยู่บนพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน ประชาชนในพื้นที่ และผู้ประกอบกิจการ โดย สกรศ. ได้มีการรับฟังความคิดเห็น จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและภาคประชาชนหลายๆ ช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สกรศ ตั้งแต่เริ่มต้น และยังได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 11 ครั้ง
สำหรับการจัดทำร่างพ.ร.บ. EEC ซึ่งเข้าสู่กระบวนพิจารณาของ คณะรัฐมนตรีถึง 3 ครั้งแสดงถึงการให้ความสำคัญในทุกประเด็น ทุกมิติ อย่างรอบคอบ ถึงแม้ปัจจุบัน ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษ ซึ่งกรรมการทุกท่านพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบทุกมิติ โดยมิได้มีการเร่งรัดหรือละเลยในทุกประเด็นที่หลายฝ่ายกังวลเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ที่มา: ผู้จัดการ